เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ที่กระทรวงการคลัง นายจุฬาพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในกรณีที่รัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อกู้ยืมเงินจำนวน 5 แสนล้านบาทสำหรับโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลอยู่ในขณะนี้ รับความเห็นเบื้องต้นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างร่างร่างพระราชบัญญัติ หากเสร็จสิ้นก็จะเสนอกฤษฎีกาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง คาดว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในปี 2566กระทรวงการคลังได้รับคำถามจากรัฐบาล มีหน้าที่จัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและภาครัฐ เชื่อว่า ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจไทยไม่ดี ดูการดำเนินงานในปัจจุบัน อาจส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจไม่บรรลุเป้าหมาย จะประสบปัญหาในอนาคต จะไม่มีงบประมาณการใช้จ่ายด้านสวัสดิการหรือปัญหาการคลังต่างๆ การชำระหนี้สาธารณะ ประเทศจึงจำเป็นต้องใช้เงิน เศรษฐกิจจะไม่เติบโตตามการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนส่วนที่หลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลเลือกกู้ยืมเงิน เพื่อหาทางฆ่าโปรเจ็กต์นั้น ยืนยันว่าไม่คิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ คณะทำงานไม่มีแผนสำรองในกรณีนี้ พ.ร.บ.เงินกู้ไม่ผ่าน เพราะมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม หากผ่านพระราชบัญญัติเงินกู้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) จะออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรองรับการกู้ยืมต่อไป พวกเขาออกพันธบัตรตามการใช้เงินจริง หรือออกพันธบัตรรัฐบาลเฉพาะเมื่อร้านค้าถอนเงินดิจิทัลเป็นเงินสดเท่านั้น

รมช.คลัง แจงเพิ่มเกณฑ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ใครใช้บัญชีเงินฝากร่วมอยู่ จะถูกหารตามรายชื่อทันที รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แจงเพิ่มเกณฑ์เงินดิจิทัลเป็น 10,000 บาท สำหรับผู้ที่ใช้บัญชีออมทรัพย์ร่วม จะแบ่งตามรายการทันที #รมช.คลัง #แจงเพิ่มเกณฑ์เงินดิจิทัล #1 #หมื่นบาท #ใครใช้บัญชีเงินฝากร่วมอยู่ #จะถูกหารตามรายชื่อทันที #thainews #ThailandNews #Thailandgirl #bangkok #News #travel #thailand #ThaiPosts
(Visited 16 times, 1 visits today)